เป็นไปได้ว่า Windows 12 อาจจะมาภายในปี 2024

เป็นไปได้ว่า Windows 12 อาจจะมาภายในปี 2024

มีการรายงานถึงความเป็นไปได้ของการปรากฏตัวของระบบปฏิบัติการรุ่นต่อไปจาก Microsoft – Windows 12 ที่อาจจะมาภายในปี 2024 (2567) (15 ก.ค. 2565) จากการรายงานของ Windows Central ได้กล่าวว่า Microsoft เตรียมที่จะประยุกต์ใช้วงจรการปล่อยระบบปฏิบัติการแบบ 3 ปี/ครั้ง และการปล่อยครั้งต่อไปนั้นก็วางไว้ภายในปี 2024 (2567) แต่ทั้งนี้แล้วยังไม่มีความแน่ชัดว่าจะตัว Windows 12 หรือเวอร์ชั่นอื่น ๆ ของ 11 หรือไม่

ในขณะเดียวกันนั้น Microsoft ก็จะเร่งการปล่อยความสามารถใหม่ ๆ ให้กับระบบปฏิบัติการที่วางขายอยู่ในเวลานี้ 

โดยจะเริ่มที่ Windows 11 22H2 (ชื่อรหัส – Sun Valley 2), ซึ่งสิ่งที่จะเปิดตัวนั้นได้มีชื่อเรียกภายในว่า “Moments” ที่จะเป็นการเปิดทางให้วิศวกรของ Microsoft สามารถที่จะปล่อยความสามารถใหม่ที่มีขนาดใหญ่ให้กับผู้ใช้งานในปัจจุบันได้โดยไม่ต้องทำการอัปเดตระบบขนานใหญ่

โดยระบบ “Moments” ที่ว่านั้นก็คือสิ่งที่เปิดทาง Microsoft ให้ทำการปล่อยตัว Weather Button ใน Taskbar ของ Windows 11 นั้นเอง เรียกได้ว่าเป็นแนวทางใหม่ในการอัปเดตระบบให้แก่ผู้ใช้งาน (ในปัจจุบัน) เพื่อที่จะสามารถรับความสามารถใหม่ ๆ ได้เร็วยิ่งขึ้น แบบที่ไม่ต้องรอการอัปเดตระบบเวอร์ชั่นต่อไป อีกทั้งยังสามารถช่วยให้ผู้พัฒนามีระยะเวลาในการทดสอบก่อนที่จะปล่อยตัวมากขึ้นด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้แล้วนั้น ยังได้มีการรายงานอีกว่า Microsoft กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการปล่อยตัวโครงการที่มีชื่อรหัสว่า Sun Valley 3 ภายในปี 2023 แต่ในเวลานี้ก็ได้มีการยุบลงไปแล้ว และคาดว่าจะถูกปรับปรุงเพื่อให้ไปปล่อยตัวภายในปี 2024 แทน

สุดท้ายนี้ ถึงแม้ว่าทุกคนจะไม่ใช่นักกิจกรรม ซึ่งมีความเสี่ยงน้อยที่จะถูกโดนโจมตีจากเพกาซัส สปายแวร์ แต่ก็อยากให้ระมัดระวังตัวในการทำใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ให้มากยิ่งขึ้น และร่วมกันต่อต้านการใช้ซอฟต์แวร์ตัวนี้ของรัฐบาลไทยในทางที่ไม่พึงประสงค์ เพื่อป้องกันและคุ้มครองสิทธิความเป็นส่วนตัวของตนเองกันด้วย

เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) ได้ประกาศถึงการเตรียมปล่อยตัวระบบเสียง Spatial Audio ให้กับทุกอุปกรณ์ (ที่รองรับการแสดงผลเสียงรูปแบบนี้) (11 ก.ค. 2565) เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) บริการรับชมภาพยนต์ – ซีรีส์แบบออนไลน์ชื่อดัง ได้ประกาศถึงการเตรียมปล่อยตัวระบบเสียง Spatial Audio ให้กับทุกอุปกรณ์ (ที่รองรับการแสดงผลเสียงรูปแบบนี้) โดยระบบเสียงดังกล่าวนั้น จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสัมผัสกับระบบเสียง Surround Sound ผ่านลำโพงทั่วไปได้

โดยอุปกรณ์ต่าง ๆ ของ Apple นั้น จะรองรับการใช้งานในรูปนี้ได้อยู่แล้ว แต่สำหรับอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ Apple นั้น จะสามารถใช้งานความสามารถนี้ได้ผ่านการที่เน็ตฟลิกซ์ปรับเปลี่ยนให้ระบบเสียงจากปกติมาเป็น 3D Spatial Audio ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากทาง Sennheiser ที่จะใช้งานเทคโนโลยีด้านเสียงแบบเดียวกับที่เจอใน Sennheiser Ambeo Soundbar

ระบบเสียง Spatial Audio จะสามารถทำงานได้บนอุปกรณ์ทุกตัว ตราบเท่าที่คุณสามารถเข้าถึง Stereo Track ซึ่งจะดำเนินการภายในตัวแอปพลิเคชันเน็ตฟลิกซ์

Windows 8.1 ขึ้นเตือนถึงการยุติการสนับสนุนภายในปีหน้า

ใกล้ถึงเวลาเปลี่ยนผ่านกันแล้วกับระบบปฏิบัติการ PC – Windows 8.1 ที่ตัวระบบได้มีการขึ้นประกาศเตือนถึงการยุติการสนับสนุนภายในปีหน้า (2023) (15 ก.ค. 2565) ใกล้เข้ามาแล้วกับการเปลี่ยนผ่านของระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ (PC) รุ่นเก่าจาก Microsoft โดยในที่นี่ก็คือ Windows 8.1 ที่ตัวระบบได้มีการประกาศแจ้งเตือนให้รับทราบแล้วว่าจะถูกยุติการสนับสนุนรับรองภายในปีหน้า (2023) นี้

โดยตัวระบบได้ทำการแจ้งเตือนเมื่อผู้ใช้งานทำการเปิดใช้งานคอมพิวเตอร์ ว่ามันใกล้ถึงเวลายุติการสนับสนุนแล้ว ที่ซึ่งจะเกิดขึ้นภายในวันที่ 10 มกราคม 2023 (2566) พร้อมทั้งปรากฏลิงค์ที่จะพาไปยังเว็บไซต์ของ Micorosft ที่ชี้แจงรายละเอียดในการยุติการสนับสนุนด้านต่าง ๆ ของระบบ พร้อมทั้งเชิญชวนให้เปลี่ยนมาใช้งานระบบรุ่นล่าสุด

จากการสำรวจของ Steam นั้น ก็พบว่าในเวลานี้ยังผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการรุ่น 8.1 อยู่ประมาณ 0.57% (จากจำนวนผู้ใช้งานแพลตฟอร์มทั้งหมด)

ดังนั้นแล้วผู้ที่ยังคงใช้งานระบบปฏิบัติการรุ่นนี้อยู่นั้น ก็ถึงเวลาที่จะเริ่มเปลี่ยนแปลงมาใช้งาน Windows 10 หรือ 11 กันได้แล้ว เพื่อความปลอดภัยทั้งในการใช้งาน และข้อมูลของตัวเอง

ในเวลานี้จะมีเนื้อหาบางส่วนที่รองรับการนำเสนอระบบเสียงแบบนี้ และผู้ที่ต้องการสัมผัสกับมันนั้นก็สามารถค้นหาได้ด้วยการหาด้วย Keyword –  “spatial audio” ซึ่งส่วนมาก (และเป็นหลัก) นั้น จะเป็นเนื้อหาที่ผลิตโดยเน็ตฟลิกซ์

แต่ทั้งนี้แล้วนั้นก็ต้องทำการตรวจสอบด้วยว่าเนื้อหาที่เปิดดูนั้น จะไม่มีสัญลักษณ์ Dolby Atmos หรือ 5.1 มิเช่นนั้นอุปกรณ์จะทำการเล่นเสียง Surround Sound Audio Track แทน

ทางด้านของอุปกรณ์ Apple นั้น จะมีการรองรับการเล่นเสียงแบบ Spatial ได้เลย และง่ายกว่าเป็นอย่างมาก รวมถึงไม่ต้องกังวลในกรณีแบบเดียวกับของอุปกรณ์อื่น ๆ เพียงแค่ใช้งานหูฟัง หรืออุปกรณ์นำเสนอเสียงที่รองรับ Spatial Audio เช่น AirPods 3, AirPods Pro, AirPods Max และ Beats บางรุ่น

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป